01.30 น.     คณะพร้อมกันที่ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ ชั้น 4 เคาน์เตอร์สายการบิน เติร์กเมนิสถานแอร์ไลน์ (T5) โดยมีเจ้าหน้าที่บริษัทฯคอยต้อนรับและอำนวยความสะดวกด้านเอกสารการเดินทาง

04.20 น.    ออกเดินทางสู่ ท่าอากาศยานแอชกาบัท ประเทศเติร์กเมนิสถาน โดยสายการบินเติร์กเมนิสถาน แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ T5 642 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง) (ใช้เวลาบินประมาณ 6 ชั่วโมง 40 นาที) (เวลาประเทศเติร์กเมนิสถานช้ากว่าประเทศไทย 2 ชั่วโมง)

09.00 น.    เดินทางถึง ท่าอากาศยานแอชกาบัท ประเทศเติร์กเมนิสถาน (เวลาท้องถิ่น) นำท่านแวะพักเปลี่ยนเครื่องเพื่อเดินทางสู่ประเทศเยอรมนี (รอแวะเปลี่ยนเครื่องประมาณ 3 ชั่วโมง 20 นาที)

12.20 น.    ออกเดินทางสู่ สนามบินนานาชาติแฟรงค์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี โดยสายการบิน เติร์กเมนิสถาน แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ T5 463 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง) (ใช้เวลาบินประมาณ 6 ชั่วโมง 30 นาที)

14.50 น.    ถึง สนามบินนานาชาติแฟรงค์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 6 ชั่วโมง) นำท่านผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง และศุลกากร

หลังรับสัมภาระเรียบร้อย นำท่านเดินทางสู่เมืองไฮเดลเบิร์ก (Heidelberg) เมืองเก่าแก่อายุนับพันปีของเยอรมนี เมืองแห่งนี้ขึ้นชื่อว่าโรแมนติกที่สุดในเยอรมนี อาคารบ้านเรือนสีน้ำตาลแดงที่ถูกโอบล้อมด้วยภูเขาและแม่น้ำเน็คคาร์ Neckar เมืองนี้ตั้งอยู่ทางด้านใต้ของแฟรงก์เฟิร์ต นำท่านเดินทางเข้าสู่ถนนสายหลักของเมือง Hauptstrasse ซึ่งสองข้างทางเต็มไปด้วยร้านค้าและร้านอาหารตลอดทั้งเส้นทาง ผ่านชมหอนาฬิกาของโบสถ์ Providenzkirche

จากนั้นเข้าสู่ Marktplatz จัตุรัสที่เป็นที่ตั้งของโบสถ์ Heiliggeistkirche หรือโบสถ์วิญญาณศักดิ์สิทธิ์ เดิมเคยเป็นโบสถ์ที่ถูกสร้างด้วยรูปแบบ Gothic แต่สงครามฝรั่งเศสในปี 1709 โบสถ์นี้ได้รับความเสียหาย จึงมีการสร้างขึ้นใหม่ในแบบบารอค ปัจจุบันได้เปลี่ยนจากนิกายคาทอลิก เป็นโปรเตสแตนต์อย่างเต็มอิสระท่านเดินเล่นชมเมืองหรือเลือกซื้อสินค้าตามอัธยาศัย หรือท่านสามารถเดินมาถ่ายรูปเมืองบริเวณสะพาน ซึ่งเป็นจุดถ่ายรูปที่สามารถมองเห็นปราสาทไฮเดลแบร์ก (Schloss Heidelberg) เป็นปราสาทเก่าแก่ในเมืองไฮเดลเบิร์ค ตั้งอยู่บนยอดเขาที่มองเห็นวิวเมือง ในอดีตเคยเป็นป้อมปราการและได้ถูกเปลี่ยนให้เป็นปราสาทในช่วงปี ค.ศ.1398 (ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 50 นาที)

เพื่อให้ท่านได้เพลิดเพลินในการเดินเล่นอย่างเต็มอิ่มจุใจ อิสระอาหารเย็นตามอัธยาศัย

ที่พัก  Leonardo Heidelberg Hotel หรือเทียบเท่า

เช้า     รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก

นำท่านเดินทางสู่เมืองสตราสบูร์ก(Strasbourg) เมืองหลวงแห่งแคว้นอัลซาส(Alsace) ของประเทศฝรั่งเศส และยังได้รับการยกย่องเป็นเมืองมรดกโลกด้านมนุษยชาติจากองค์การยูเนสโกเมืองซึ่งผสมผสาน 2 วัฒนธรรมคือ ฝรั่งเศสและเยอรมัน เนื่องจากในอดีตถูกผลัดเปลี่ยนอยู่ภายใต้การปกครองของ 2 ประเทศนี้สลับกันไปมา ทั้งยังเป็นสถานที่ตั้งขององค์กรสำคัญของยุโรป อาทิ สภายุโรป องค์กรสิทธิมนุษยชน และศาลสิทธิมนุษยชนแห่งยุโรป ที่นี่ยังเป็นเมืองมหาวิทยาลัยดังชั้นนำที่เกอร์เธ (Goethe) นักเขียนชาวเยอรมันเคยศึกษาอยู่ (ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที)

เที่ยง    รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน

ได้เวลาอันสมควรนำท่านเดินทางสู่เมืองกอลมาร์ (Colmar) เป็นเมืองเล็กๆน่ารัก ตั้งอยู่ในแคว้นอัลซาส (Alsace) เป็น 1 ใน 8 แคว้นผลิตไวน์  สำคัญของฝรั่งเศสถูกจัดให้เป็นเมืองที่มีความโรแมนติคเมืองหนึ่งของประเทศฝรั่งเศส อันเป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางสายไวน์แหล่งปลูกองุ่นพันธุ์ดี เพื่อผลิตไวน์ชั้นเลิศบริเวณเชิงเขาของเทือกเขาโวชจ์  ซึ่งมีไร่องุ่นจำนวนมากเคียงคู่ไปกับอุตสาหกรรมการผลิตไวน์ชั้นเยี่ยม นำท่านเดินเที่ยวชมสถาปัตยกรรมของอาคารบ้านเรือนเก่าแก่ ช่วยทำให้เมืองดูโรแมนติกยิ่งขึ้นมรดกทางสถาปัตยกรรมพบเห็นได้จากโบสถ์แบบโกธิคและโรมันสไตล์ และอาคารเก่าหลายหลังสร้างในคริสต์ศตวรรษที่ 15 บ้านเรือนเรียงรายสองฝั่งคลองดูงดงามน่ารักจนได้รับการขนานนามว่า “ลิตเติ้ลเวนิส” (ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง)

เพื่อให้ท่านได้เพลิดเพลินในการเดินเล่นอย่างเต็มอิ่มจุใจ อิสระอาหารเย็นตามอัธยาศัย

ที่พัก  B&B Hotel Basel หรือเทียบเท่า

เช้า     รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองซุก (Zug) เมืองเล็กๆริมทะเลสาบซุก เสน่ห์อยู่ที่ความเป็นเมืองเล็กๆ น่ารักสามารถเดินรอบได้ภายในวันเดียว และด้วยความที่เมืองตั้งอยู่บนที่ราบเชิงเขาและมีแม่น้ำรอยส์ไหลผ่าน ทำให้เมืองซุกมีทัศนียภาพอันงดงาม ผสมผสานกับเขตเมืองเก่าที่ยังคงสภาพความสมบูรณ์มาก ชมย่านเมืองเก่า (Old Town) ที่ยังคงความสมบูรณ์จากสมัยยุคกลาง โดยเริ่มก่อตั้งในสมัยศตวรรษที่ 13 ถนนที่ปูด้วยหิน ผนัง ตึกที่มีภาพวาดด้วยสีสันสดใส จัตุรัสน้ำพุโบราณประดับประดาด้วยรูปปั้น ชมโบสถ์กลางเมือง และตึกเก่าแก่อายุกว่า 500 ปี ชม Clock Tower ที่มีความสูงกว่า 52 เมตร สร้างขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 13 ตัวอาคารเป็นสีขาว หลังคาสีฟ้าสลับขาว สามารถมองเห็นได้แต่ไกล จากนั้นอิสระให้ท่านเดินเล่นชมเมืองซุก หรือช้อปปิ้งของที่ระลึก (ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง 10 นาที)

เที่ยง       รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน

นำท่านเดินทางสู่เมือง ดาวอส (Davos) ตั้งอยู่ในเขตอำเภอ Prättigau ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของรัฐ Graubünden อยู่ทางตอนเหนือของ St. Moritz มีประชากรจำนวน 11,156 คน เมืองดาวอส ตั้งอยู่เขตรอบแม่น้ำ Landwasser ซึ่งอยู่ในเทือกเขาแอลป์ ระหว่าง ภูเขาPlessur และ ภูเขา Albula ที่ความสูง 1,560 เมตร (5,120 ฟุต) ซึ่งเป็นเมืองที่สูงที่สุดในยุโรป ดาโวส ถูกจัดให้เป็นเมือง สกีรีสอร์ท ที่ใหญ่ที่สุดของสวิสเซอร์แลนด์ และสูงที่สุดในยุโรป นอกจากนี้เมืองนี้ยังโด่งดัง เรื่องของอากาศ สภาพแวดล้อมที่ดี (ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 50 นาที)

เพื่อให้ท่านได้เพลิดเพลินในการเดินเล่นอย่างเต็มอิ่มจุใจ อิสระอาหารเย็นตามอัธยาศัย

ที่พัก  Hotel Concordia หรือเทียบเท่า

เช้า      รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก

นำท่านเดินทางสู่ เมืองโบลซาโน (Bolzano) เมืองที่ผสมผสานความหลากหลายไว้ได้อย่างลงตัว รวมไปถึงความเป็นเมืองเก่า และเมืองใหม่ ทัศนียภาพของเมืองโบลซาโน ทิวภูเขาล้อมรอบด้วยแม่น้ำ Talvera ไหลลงสู่แม่น้ำ Israco และมารวมกันเป็นแม่น้ำสายใหญ่ Adige นำท่านเดินสำรวจเมืองในย่านเมืองเก่า  (ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง 40 นาที)

เที่ยง    รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน

นำท่านเดินทางสู่เมืองคอร์ตินา ดัม เปซโซ่ (Cortina D’ Ampezzo)เมืองสกีรีสอร์ทที่ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติเทือกเขาโดโลไมท์ (Dolomites) หรือ โดโลมิติ ตามการเรียกขานของชาวอิตาลี เมืองนี้เป็นสกีรีสอร์ท Best of  The Alps เพียงแห่งเดียวในอิตาลีที่ได้รับการยกย่องให้เป็น 1 ใน 10 ของสกีรีสอร์ทที่ดีที่สุดในโลก ถือว่าเป็นอีกหนึ่งไข่มุกแห่งโดโลไมท์ ให้อิสระท่านเดินเล่นซื้อของที่ระลึก เก็บภาพบรรยากาศ และซึมซับกับทัศนียภาพที่สวยงาม และอากาศบริสุทธิ์  (ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง 20 นาที)

เพื่อให้ท่านได้เพลิดเพลินในการเดินเล่นอย่างเต็มอิ่มจุใจ อิสระอาหารเย็นตามอัธยาศัย

ที่พัก  B&B Hotel Passo Tre Croci Cortina หรือเทียบเท่า

เช้า      รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก

นำท่านเดินทางสู่ ทะเลสาบมิซูลิน่า (Misurina See) ทะเลสาบที่หลบซ่อนตัวในหุบเขาที่ถือเป็นสถานที่ ท่องเที่ยวที่สำคัญอีกแห่งใดในโดโลไมท์ นำท่านเดินเล่นชมวิวทะเลสาบเก็บภาพสุดแสนประทับใจ  (ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 20 นาที)

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ทะเลสาบบรายเอียซ (Braies)ซึ่งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติ Fanes Sennes Braies เขตป่าสงวนที่ใหญ่ที่สุดใจกลางเทือกเขาโดโลไมท์ เพื่อชมความงามของทะเลสาบ ตั้งอยู่ริมขอบทางทิศเหนือของอุทยานมีทางเดินอย่างดีเป็นวงกลมรอบทะเลสาบ อิสระให้ท่านเก็บภาพความประทับใจ  (ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 40 นาที)

จากนั้นนำเดินทางเมืองสู่เมืองบริกเซน (Brixen) เมืองเก่าแก่ในแคว้น South Tyrol ให้ท่านเดินเล่นชมเมืองโดยเมืองบริกเซนมีโบสถ์ประจำเมืองคือ Cathedral of Brixen ที่ถูกสร้างขึ้นครั้งแรกในศตวรรษที่10 และมีการรีโนเวตใหม่ในศตวรรษที่18 เป็นโบสถ์สไตล์บาโรก ที่สวยงาม จากนั้นอิสระให้ท่านเดินเล่นชมเมืองตามอัธยาศัย  (ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 10 นาที)

เที่ยง       รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน

นำท่านเก็บภาพความประทับใจกับวิวไฮไลท์ ของเทือกเขา Dolomites ณ หมู่บ้าน Santa Maddalena ถ่ายรูปกับหนึ่งจุดไฮไลต์ด้วยวิวยอดเขาแปลกตาอีกแห่งหนึ่งในโดโลไมท์ ณ โบสถ์ Santa Maddalena  โบสถ์ที่ถือเป็นสถานที่ไฮไลต์ทที่ถูกถ่ายรูปมากที่สุด  ในอุทยานโดโลไมต์ มีวิวทิวทัศน์ที่สวยงามมีฉากหลังเป็นเทือกเขา Odles  (ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 30 นาที)

นำท่านเดินทางสู่เมืองอินส์บูร์ก (Innsbruck) เมืองสีลูกกวาดพาสเทล แห่งออสเตรีย เมืองนี้ตั้งอยู่บนที่ราบลุ่มแม่น้ำอินน์ อยู่ท่ามกลางหุบเขาของเทือกเขาแอลป์ ไม่ว่าจะมองไปทางไหน ท่านก็จะได้เห็นวิวของเทือกเขาแอลป์ที่โอบล้อมท่านอยู่ โดยคำว่า บรุค (Bruck) มีรากศัพท์มาจากภาษาเยอรมัน แปล Bridge และคำว่า Inns ก็หมายถึงชื่อแม่น้ำอินส์ รวมแล้ว Innsbruck จึงมีความหมาย Bridge over The Inn ซึ่งแปลว่าสะพานแห่งแม่น้ำอินส์ ที่มีทิวทัศน์ที่สวยงาม อากาศดีมาก จนได้รับการขนานนามว่า Capital of Alp  (ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที)

เพื่อให้ท่านได้เพลิดเพลินในการเดินเล่นอย่างเต็มอิ่มจุใจ อิสระอาหารเย็นตามอัธยาศัย

ที่พัก  Alphotel Innbruck หรือเทียบเท่า

เช้า      รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก

นำท่านเดินเล่น ณ เมืองอินส์บูร์ก (Innsbruck) อิสระท่านเดินเล่นบริเวณแลนด์มาร์คของเมือง Goldenes Dachl หรือ หลังคาทองทำ สร้างขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองการอภิเษกสมรสครั้งที่สองของจักรพรรดิแม็กซิมิเลียนที่ 1 โดยใช้กระเบื้องทองแดงปิดทอง 2,657 แผ่น ในการมุงหลังคากว้าง 16 เมตร เพื่อพยายามลบข่าวลือว่าสถานภาพทางการเงินที่ไม่ดีในช่วงนั้น  (ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 5 นาที)

นำท่านเดินทางเข้าสู่เมืองมิวนิค (Munich) เมืองหลวงที่มีเสน่ห์แห่งแคว้นบาวาเรีย มีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่สามของเยอรมนี ตั้งอยู่บนแม่น้ำอีซาร์เหนือเทือกเขาแอลป์ บนที่ราบสูงบาวาเรีย เป็นเมืองที่มีเศรษฐกิจเข้มแข็งที่สุดในประเทศเยอรมนี เต็มไปด้วยสถานที่ทางวัฒนธรรมและศาสนา และยังเมืองที่เคยได้รับการโหวตให้เป็นเมืองที่น่าอยู่ที่สุดในเยอรมัน  (ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง)

เที่ยง      รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน

นำท่านเที่ยว ชมเขตเมืองเก่าของมิวนิคมาเรียนพลาตซ์ (Marienplatz) หรือ จัตุรัสมาเรียน ( Mary's Square) ตั้งอยู่กลางใจเมืองของนครมิวนิค ตั้งแต่ปี 1158 เป็นหัวใจของเขตเมืองเก่า ในสมัยยุคกลางที่นี่เคยเป็นตลาด และศูนย์กลางการจัดงานสำคัญทางวัฒนธรรมต่างๆ ชมหอระฆังของศาลาว่าการเมืองใหม่ สร้างด้วยสถาปัตยกรรมแบบนีโอโกธิค และนาฬิกา Glockenspiel หอนาฬิกาที่มีตุ๊กตาออกมาเต้นระบำ

เพื่อให้ท่านได้เพลิดเพลินในการเดินเล่นอย่างเต็มอิ่มจุใจ อิสระอาหารเย็นตามอัธยาศัย

ที่พัก  Leonardo Hotel & Residenz Munchen หรือเทียบเท่า

เช้า     รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก

นำท่านเข้าสู่เมืองนูเรมเบิร์ก (Nuremberg) เมืองแห่งประวัติศาสตร์ในแคว้นบาวาเรีย ได้รับสมญานามว่าเมืองแห่งเทพนิยายของเยอรมัน เป็นเมืองเก่าที่ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 1050 เรียกอีกชื่อนึงว่า เนอร์นแบร์ก โดยเมื่อช่วงสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 เมืองนี้ได้ถูกระเบิดทำลาย จนต่อมาก็ได้รับการบรูณะขึ้นมาใหม่ โดยรักษารูปแบบเดิมเอาไว้นอกจากนี้ยังขึ้นชื่อในด้านความสวยงามของธรรมชาติ ขุนเขา โบสถ์สวยเก่าแก่แบบยุคกลาง จนทำให้เมืองนูเรมเบิร์กกลายเป็นเมืองแห่งเทพนิยายที่ได้รับการรักษาเอาไว้ได้อย่างสมบูรณ์ (ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 50 นาที)

อิสระให้ท่านเดินเที่ยวเมืองเก่า Nuremberg old town ผ่านชมวิว ณ แม่น้ำเปกนิทซ์ (Pegnitz river) ที่พาดผ่านเมือง ด้วยมุมที่เปิดโล่งให้เห็นสายน้ำและสถาปัตยกรรมของอาคารบ้านเรือนของนูเรมเบิร์ก ผ่านชมน้ำพุเชินเนอร์บรุนเนิน (Schoner Brunnen) หรือ Beautiful Fountain สูง 19 เมตร สีทองอร่าม ซึ่งประกอบไปด้วยรูปปั้นของเจ้าอิเล็คเตอร์ 40 องค์ นักบุญ ชาวยิวและรูปประดับอื่นๆถือได้ว่าเป็นน้ำพุที่อลังการมากที่สุดในเยอรมนี

เที่ยง      รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน

นำท่านเดินทางสู่ เมืองเวิร์ซบวร์ก (Wurzburg) เมืองแรกในการเริ่มต้นเดินทางเข้าสู่เส้นทางสายโรแมนติค เป็นเมืองที่ตั้งอยู่บนเนินเขา ริมฝั่งแม่น้ำไมน์ (MAIN) เป็นอีกแหล่งของการเพาะปลูกองุ่นเพื่อผลิตไวน์ของเยอรมัน ซึ่งบรรดาสถาปัตยกรรมในเมืองนี้ล้วนเป็นสไตล์บาร็อค จึงได้รับสมญานามว่าเป็น Baroque City นอกจากนั้นยังถือเป็นเมืองแห่งบิชอบ(Bishop) เพราะในอดีตนั้นได้ตกอยู่ภายใต้การปกครองของฝ่ายศาสนามาโดยตลอด จากนั้นนำท่านชมความงดงามของเมืองมรดกโลกเมืองนี้โดยเริ่มจาก ศาลาว่าการเมือง (City Hall) และแวะถ่ายรูปกับ มหาวิหารแห่งเมืองเวิร์ซบวร์ก (Wurzburg Cathedral) สร้างขึ้นเมื่อ ค.ศ. 788 และในการก่อสร้างระหว่างปี1040 -1225 ได้รับอิทธิพลจากศิลปะแบบโรมาเนสก์จึงทำให้ภายนอกมหาวิหารสร้างแบบโรมาเนสก์ จากนั้นนำท่านแวะถ่ายรูปกับ Wurzburg Residence สร้างขึ้นในสมัยศตวรรษที่ 10 ซึ่งอดีตคือพระราชวังเก่าสร้างแบบสถาปัตยกรรมบาร็อคและได้มีการบูรณะหลายครั้งเนื่องจากถูกทำลายจากสงครามโลกครั้งที่ 2 (ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 20 นาที)

นำท่านเดินทางสู่เมืองแฟรงค์เฟิร์ต (Frankfurt) ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำไมน์ (Main river) ศูนย์กลางทางการเงินของประเทศเยอรมนี และเป็นเมืองที่ร่ำรวยที่สุดในกลุ่มสหภาพยุโรป มีตึกระฟ้าอยู่มากมาย ซึ่งในปี 2004 เมืองแฟรงก์เฟิร์ตได้กลายเป็นเมืองที่มีตึกระฟ้ามากที่สุดถึง 10 ตึก ซึ่งเป็นอันดับ 2 ของโลก รองเพียงเมืองปารีสเท่านั้น (ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 15 นาที)

เพื่อให้ท่านได้เพลิดเพลินในการเดินเล่นอย่างเต็มอิ่มจุใจ อิสระอาหารเย็นตามอัธยาศัย

ที่พัก  Ibis Frankfurt Centrum หรือเทียบเท่า

เช้า       รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก

ให้ท่านได้อิสระเที่ยวชมเมืองตามอัธยาศัย (ไม่มีรถบริการ)

เพื่อให้ท่านได้เพลิดเพลินในการเดินเล่นอย่างเต็มอิ่มจุใจ อิสระอาหารกลางวันตามอัธยาศัย

ได้เวลาอันสมควรนำท่านเดินทางสู่สนามบินนานาชาติแฟรงค์เฟิร์ต

16.20 น.    ออกเดินทางสู่ ท่าอากาศยานแอชกาบัท ประเทศเติร์กเมนิสถาน โดยสายการบินเติร์กเมนิสถาน แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ T5 464 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง) (ใช้เวลาบินประมาณ 5 ชั่วโมง 20 นาที) (เวลาประเทศเติร์กเมนิสถานช้ากว่าประเทศไทย 2 ชั่วโมง)

01.50 น.    เดินทางถึง ท่าอากาศยานแอชกาบัท ประเทศเติร์กเมนิสถาน (เวลาท้องถิ่น) นำท่านแวะพักเปลี่ยนเครื่องเพื่อเดินทางสู่ประเทศไทย (รอแวะเปลี่ยนเครื่องประมาณ 1 ชั่วโมง 20 นาที)

03.10 น.    ออกเดินทางสู่ ประเทศไทย โดยสายการบิน เติร์กเมนิสถาน แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ T5 647 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง) (ใช้เวลาบินประมาณ 6 ชั่วโมง 40 นาที) 

11.50 น.    เดินทางถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิโดยสวัสดิภาพ