18.00 น.     คณะพร้อมกันที่ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ ชั้น 4 เคาน์เตอร์สายการบินกาต้าร์ (QR) โดยมีเจ้าหน้าที่บริษัทฯ คอยต้อนรับและอำนวยความสะดวกด้านเอกสารการเดินทาง

21.05 น.    ออกเดินทางสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติฮามัด โดฮา ประเทศกาต้าร์ โดยสายการบินกาต้าร์ เที่ยวบินที่ QR833 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง) (ใช้เวลาบินประมาณ 7 ชั่วโมง) (เวลาประเทศกาต้าร์ ช้ากว่าประเทศไทย 4 ชั่วโมง)

00.05 น.    เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติฮามัด โดฮา ประเทศกาต้าร์  (เวลาท้องถิ่น) นำท่านแวะพักเปลี่ยนเครื่องเพื่อเดินทางสู่ประเทศเยอรมนี (รอแวะเปลี่ยนเครื่องประมาณ 1 ชั่วโมง 45 นาที)

01.50 น.    ออกเดินทางสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติมิวนิก ประเทศเยอรมนี โดยสายการบินกาต้าร์ เที่ยวบินที่ QR059 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง) (ใช้เวลาบินประมาณ 6 ชั่วโมง 15)

06.50 น.    ถึง ท่าอากาศยานนานาชาติมิวนิค ประเทศเยอรมนี (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 5 ชั่วโมง)  ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง และศุลกากร หลังรับสัมภาระเรียบร้อย      

นำท่านสู่บริเวณ มาเรียนพลัทซ์ (Marienplatz) ในเขตเมืองเก่าที่เป็นเหมือนจุดเริ่มต้นของการทำความรู้จักกับมิวนิค ปัจจุบันใช้เป็นสถานที่สำหรับงานพิธีต่างๆ ที่สำคัญของเมือง ที่บริเวณจัตุรัสมาเรียนพลัสซ์นี้เองที่เราจะได้เห็น ศาลาว่าการใหม่ (New Town Hall) ที่ได้ใช้ทำการแทนศาลาว่าการเก่าตั้งแต่ปี 1874 เห็นได้ง่ายด้วยหอคอยแหลมสูงและการออกแบบและตกแต่งอย่างประณีตไม่แพ้ปราสาทหรือพระราชวัง บริเวณใกล้กันนั้นเป็น ศาลาว่าการเก่า (Old Town Hall) อาคารสีขาวสะอาดหลังนี้เป็นศาลาว่าการของเมืองมิวนิคมาตั้งแต่ปี 1310 แม้จะผ่านมากว่า 700 ปี แต่ก็ยังสวยและสง่าด้วยศิลปะสไตล์โกธิค โบสถ์พระแม่มารี (Frauenkirche-Church of Our Lady) เป็นโบสถ์ทรงหัวหอมคู่ที่สร้างด้วยอิฐแดงสูง 99 เมตร ซึ่งนับได้ว่าเป็นอีกสัญลักษณ์หนึ่งของเมืองมิวนิคเช่นกัน จากนั้นอิสระให้ท่านเดินเล่น หรือช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนมตามอัธยาศัย

นำท่านเข้าสู่ เมืองนูเรมเบิร์ก (Nuremberg) (ระยะทาง 169 กม./ 2.30 ชม.)   เมืองแห่งประวัติศาสตร์ในแคว้นบาวาเรีย ได้รับสมญานามว่าเมืองแห่งเทพนิยายของเยอรมัน เป็นเมืองเก่าที่ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 1050 เรียกอีกชื่อนึงว่า เนอร์นแบร์ก โดยเมื่อช่วงสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 เมืองนี้ได้ถูกระเบิดทำลาย จนต่อมาก็ได้รับการบรูณะขึ้นมาใหม่ โดยรักษารูปแบบเดิมเอาไว้นอกจากนี้ยังขึ้นชื่อในด้านความสวยงามของธรรมชาติ ขุนเขา โบสถ์สวยเก่าแก่แบบยุคกลาง จนทำให้เมืองนูเรมเบิร์กกลายเป็นเมืองแห่งเทพนิยายที่ได้รับการรักษาเอาไว้ได้อย่างสมบูรณ์

เที่ยง  รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

อิสระให้ท่านเดินเที่ยวเมืองเก่า Nuremberg old town ผ่านชมวิว ณ แม่น้ำเปกนิทซ์ (Pegnitz river) ที่พาดผ่านเมือง ด้วยมุมที่เปิดโล่งให้เห็นสายน้ำและสถาปัตยกรรมของอาคารบ้านเรือนของนูเรมเบิร์ก ผ่านชมน้ำพุเชินเนอร์บรุนเนิน (Schoner Brunnen) หรือ Beautiful Fountain สูง 19 เมตร สีทองอร่าม ซึ่งประกอบไปด้วยรูปปั้นของเจ้าอิเล็คเตอร์ 40 องค์ นักบุญ ชาวยิวและรูปประดับอื่นๆถือได้ว่าเป็นน้ำพุที่อลังการมากที่สุดในเยอรมนีความสวยงามของธรรมชาติ ขุนเขา โบสถ์สวยเก่าแก่แบบยุคกลาง จนทำให้เมืองนูเรมเบิร์กกลายเป็นเมืองแห่งเทพนิยายที่ได้รับการรักษาเอาไว้ได้อย่างสมบูรณ์

สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางสู่ เมืองออฟ (Hof) (ระยะทาง 165 กม./ 2ชม.)  เมืองน่าอยู่ทางตอนเหนือสุดของรัฐบาวาเรีย มีชื่อเสียงในเรื่องเทศกาลภาพยนตร์ ไส้กรอกที่อร่อยที่สุดในเยอรมนี  “Wiener” หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า “Knacker” และเบียร์สุดพิเศษ Dunkel และ Mephisto อิสระทุกท่านเดินชมเมืองที่มีสถาปัตยกรรมแห่งบาวาเรียตามอัธยาศัย

เย็น    อิสระอาหารเย็น ตามอัธยาศัย

ที่พัก    Hotel Strauss ระดับ 3 ดาว หรือเทียบเท่า

เช้า    รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก

นำท่านเดินทางสู่ คาร์โลวี วารี (KARLOVY VARY) (ระยะทาง 68 กม./ 1 ชม.)   เมืองแห่งบ่อน้ำพุร้อน เพราะสามารถพบเห็นได้มากในเมือง อุดมด้วยแร่ธาตุชั้นดีและมีคุณภาพสูง ปัจจุบันคาร์โลวี วารี่ กลายเป็น เมืองตากอากาศชื่อดังและเป็นเมืองแห่งสปาที่ใหญ่ที่สุดในสาธารณรัฐเช็ก มีสถาปัตยกรรมตามอาคารต่างๆ ที่สวยงาม รูปปั้นนักบุญ อนุสาวรีย์และอาคารเก่าแก่ยังมีอยู่ทุกมุมเมือง ผังเมืองสวยงาม มีถนนกว้างขวาง

นำท่านชมบ่อน้ำพุร้อนขนาดใหญ่ที่ Hot Spring Colonnade เป็นบ่อน้ำพุร้อนในจุดที่มีน้ำพุผุดขึ้นจากธรรมชาติ และลึกลงไปในดินถึง 2,000 เมตร น้ำที่ขึ้นมาจากดินนี้จะพุ่งขึ้นไปในอากาศสูงถึง 12 เมตร ได้ปริมาณมากถึง 2,000 ลิตรต่อนาที และเป็นน้ำที่ชาวคาร์โลวี วารี่ใช้ในการรักษาโรคมากว่า 600 ปีแล้ว จะมีบ่อแยกย่อยออกไปถึง 12 บ่อ แต่ละบ่อจะให้สรรพคุณของน้ำแตกต่างกัน เช่น ช่วยรักษาโรคเกี่ยวกับระบบการย่อยอาหาร โรคเบาหวาน โรคเกี่ยวกับระบบไหลเวียนเลือดในร่างกาย และยังช่วยลดอาการอ่อนเพลียไร้เรี่ยวแรงได้ ในบ่อน้ำเหล่านี้สามารถรองดื่มกินได้ โดยซื้อแก้วสำหรับตักชิมน้ำจากบ่อน้ำพุร้อน ที่มีบริการจำหน่ายอยู่ที่ด้านหน้า และยังนำแก้วเหล่านั้นเก็บไปเป็นของที่ระลึกได้อีกด้วย เพราะตกแต่งด้วยลวดลายอย่างสวยงามเป็นเอกลักษณ์ที่ดูไปแล้วคล้ายกับกาน้ำ

นำท่านเดินทางสู่  กรุงปราก (Prague) (ระยะทาง 130 กม./ 2 ชม.) เป็นเมืองหลวงและเมืองใหญ่ที่สุดในประเทศสาธารณรัฐเช็ก ศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของยุโรปในยุคกลางที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน กรุงปรากได้รับการประกาศจากองค์การยูเนสโก UNESCO ให้เป็นมรดกโลก ในปี 1992

เที่ยง   อิสระอาหารกลางวันตามอัธยาศัย

นำท่านถ่ายภาพบริเวณ จัตุรัสเมืองเก่า (Old Town Square) จัตุรัสศูนย์กลางที่สำคัญของกรุงปราก ที่เคยเป็นตลาดค้าขายตั้งแต่ปลายศตวรรษที่ 12 มีตึกรามบ้านเรือนล้อมรอบจตุรัสที่สวยงามและได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี ดื่มด่ำกับบรรยากาศของยุโรปในยุคโบราณขณะเดินออกจากร้านค้าสีสันสดใสไปยังร้านอาหารรอบๆ จัตุรัส จัตุรัสกลางเมืองแห่งนี้เต็มไปด้วยชีวิตชีวา คุณจะพบนักแสดงเร่ ศิลปิน และที่ใจกลางเมืองปราก เราจะได้เห็น หอนาฬิกาดาราศาสตร์  ซึ่งคอยทำหน้าที่บอกเวลาให้กับชาวเมืองทุกวัน หอนาฬิกาดาราศาสตร์ถูกสร้างขึ้นในปี 1410 นอกจากเข็มนาฬิกาที่คอยบอกเวลาแล้วตัวเรือนสีฟ้ายังมีรูปปั้นนักบุญ ตัวเรือนนาฬิกาแสดงการโคจรของดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ แสดงเดือนปัจจุบัน เมื่อเวลาเดินมาครบชั่วโมงจะมีเสียงระฆังดังกังวานและรูปปั้น 12 สาวกของพระเยซูคริสต์ที่พากันเดินขบวนกันอยู่หลังช่องหน้าปัด นำท่านชม สะพานชาร์ลส์ (Charles Bridge) อีกหนึ่งจุดหมายหลักที่พรากไม่ได้ สะพานแห่งนี้โดดเด่นด้วยรูปปั้นนักบุญเรียงตลอดความยาวของสะพาน และเป็นสิ่งก่อสร้างชิ้นสำคัญที่ชี้ให้คนยุคปัจจุบันเห็นได้ถึงความรุ่งเรืองในยุคสมัยของจักรพรรดิชาร์ลส์ที่ 4

สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางสู่ เมืองวรอตชวาฟ Wroclaw (โปแลนด์) (ระยะทาง 330 กม./ 4.30 ชม.)  เมืองที่ใหญ่ที่สุดในฝั่งตะวันตกของโปแลนด์ ได้ชื่อว่า Colorful City ด้วยสถาปัตยกรรมแบบผสมผสานสีสันของอาคารบ้านเรือน

เย็น    รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร

ที่พัก   Ibis Wroclaw Centrum ระดับ 3 ดาว หรือเทียบเท่า

เช้า   รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก

นำท่านเดินทางสู่ ค่ายกักกันเอาช์วิตช์ (Auschwitz II-Birkenau) (ระยะทาง 193 กม./ 2 ชม.) เรียนรู้ประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ โศกนาฏกรรมอันเลื่องชื่อ ร่องรอยความโหดร้าย บาดแผลแห่งสงครามโลกครั้ง ที่ 2 เมื่อเดินทางมาถึงที่ค่ายกักกันแล้ว จะเห็นซุ้มประตูเหล็กทางเข้า ที่ด้านบนเขียนว่า "Arbeit Macht Frei" จงทำงานเพื่ออิสรภาพ ประโยคแห่งความหวังและคำหลอกลวงแสนโหดร้าย เมื่อผู้เห็นป้ายนี้ คงไม่มีใครรู้ว่าสุดท้ายแล้วปลายทางของคำว่าอิสรภาพที่เขียนบนป้ายนั้นหมายถึงความตาย ค่ายกักกันเอาช์วิตช์ สร้างขึ้นเมื่อปี 1940 เป็นค่ายที่เยอรมัน นาซีใช้กักกันและกำจัดผู้คน ซึ่งนักประวัติศาสตร์คาดการณ์กันว่า ณ สถานที่แห่งนี้มีผู้เสียชีวิตราว 1.1 ล้านคน ประมาณ 1 ล้านคน เป็นชาวยิว หลังจากที่มีการประกาศอิสรภาพให้กับค่ายแห่งนี้ มีเหยื่อที่รอดชีวิดจากความโหดร้ายของนาซีเพียง 60,000 กว่าคน

เที่ยง   รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

นำท่านเดินทางสู่ เมืองคราคูฟ (Krakow) (ระยะทาง 53 กม./ 1 ชม.) เมืองเก่าแก่ กว่า 500 ปี อดีตเมืองหลวงของประเทศโปแลนด์ ในปี ค.ศ. 1038-1596 ก่อนจะย้ายเมืองเหลือเป็นกรุงวอซอร์ในปัจจุบัน  เมืองคราคูฟ ได้รับการขึ้นทะเบียนจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม ปี 1978 เป็นเมืองที่รอดผ้นจากการทำลายของนาซี ทำให้อาคาร สถานที่ ต่าง ๆ ยังคงแบบสถาปัตยกรรมดั้งเดิม ที่รวมสเน่ห์ของสถาปัตยกรรมทุกยุคสมัย ไม่ว่าจะเป็น โกธิค โรมาเนสก์ บาร็อก ร็อคโคโค เรเนสซองส์ นีโอคลาสสิค รวมไปถึงอาร์ตนูโว  ชม Choth Hall  แลนด์มาร์กที่โดดเด่นที่สุดแห่งหนึ่งกลางจัตุรัส Main Market Square ที่นี่ถูกใช้เป็นศูนย์กลางการค้ากับต่างประเทศ และขายของต่างๆ อย่างเช่นผ้าไหม เครื่องเทศ และเครื่องหนัง โบสถ์เซนแมรี่ (St.Mary’s Basilica) โบสถ์อิฐอันงดงามที่ตั้งอยู่ทางมุมทิศตะวันออกของจัตุรัส Main Market Square สถาปัตยกรรมโกธิคโปแลนด์

สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางสู่ เมืองวรอตชวาฟ Wroclaw (ระยะทาง 236 กม./ 4 ชม.)  

เย็น    อิสระอาหารเย็น ตามอัธยาศัย

ที่พัก  ibis Wroclaw Centrum ระดับ 3 ดาว หรือเทียบเท่า

เช้า   รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก

นำท่านเดินทางสู่ กรุงเบอร์ลิน (Berlin) (ระยะทาง 295 กม. / 4 ชม.) เมืองหลวงและเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศเยอรมนี ประวัติศาสตร์อันยาวนาน วัฒนธรรมหลากหลาย สถาปัตยกรรมที่สวยงาม และมีสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ เช่น กำแพงเบอร์ลิน สัญลักษณ์สงครามเย็นที่แบ่งแยกเบอร์ลินออกเป็น 2 ฝั่ง

 เที่ยง     รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

นำท่านเดินทางสู่ เมืองพอทสดัม (Potsdam) (ระยะทาง 28 กม./ 30 นาที) ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของกรุงเบอร์ลิน เป็นเมืองที่จักรพรรดิ์เฟรดเดอริกมหาราช ประทับอยู่เมื่อครั้งเบอร์ลินและพอสดัมอยู่ภายใต้การปกครองของจักรวรรดิรัสเซีย เป็นเมืองที่มีความเก่าแก่มากกว่าเบอร์ลินถึง 250 ปี

นำท่าน เข้าชมพระราชวังซองส์ซูซี (Sanssouci Palace) พระราชวังฤดูร้อน ออกแบบและตกแต่งด้วยสถาปัตยกรรมแบบร็อคโคโค หรูหราอลังการบนเนินเขา มีสวนขั้นบันไดที่ปลูกองุ่นเป็นแนวอยู่ด้านหน้า สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ประทับของพระเจ้าเฟรดเดอริก ที่ 2 เปิดให้เข้าชมเฉพาะเดือนเมษายนถึงเดือนตุลาคม ในช่วงเวลากลางวันเท่านั้น อิสระให้ท่านเดินชมสวนของพระราชวัง มีน้ำพุสวย ๆ หลายจุด แต่น้ำพุที่สำคัญที่สุดมีชื่อว่า Gro e Fontane

สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางกลับสู่ กรุงเบอร์ลิน นำท่านเที่ยวชมกรุงเบอร์ลิน เช็คพอยท์ชาร์ลี (Checkpoint Charlie) เขตพรมแดนแบ่งการปกครองระหว่างอเมริกากับรัสเซีย ผ่านชม Berlin Cathedral มหาวิหารโปรเตสแตนส์ที่ใหญ่ที่สุดในเยอรมนี สร้างในระหว่างปี 1894-1905 ด้วยสถาปัตยกรรมเรเนอซองส์ ประตูบันเดนบวร์ก ประตูสัญลักษณ์ของเมืองด้านบนมีรูปปั้นของเทพีแห่งชัยชนะสีทองโดดเด่น อาคารรัฐสภาแห่งเยอรมนี Berlin Wall ชมร่องรอยกำแพงเบอร์ลิน ที่ยังหลงเหลือออยู่ ศิลปะบนกำแพงที่ถ่ายทอดออกมาเป็นภาพวาด จากศิลปิน 118 ท่าน บนซากกำแพงกว่า 1,200 หลา อิสระทุกท่านตามอัธยาศัย

เย็น    อิสระอาหารเย็น ตามอัธยาศัย

ที่พัก  Leonardo Hotel Berlin ระดับ 3 ดาว หรือเทียบเท่า

เช้า    รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก

นำท่านเดินทางสู่ เมืองไลพ์ซิก (Leipzig) (ระยะทาง 195 กม./ 3 ชม.) เมืองที่เกอเธ่ นักประพันธ์ชื่อดังของเยอรมัน ยกให้เป็นลิตเติ้ลปารีส จากความงดงามของสถาปัตยกรรมทั้งยังเป็นเมืองมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ และมีชื่อเสียงเต็มไปด้วยนิสิต นักศึกษา และบาร์เครื่องดื่มต่างๆ ร้านกาแฟ ร้านอาหารดีๆ มากมาย นอกจากนี้ยังเป็นเมืองที่ได้รับการพัฒนาให้มีความเจริญก้าวหน้าอย่างรวดเร็วที่สุด เพื่อให้สมกับที่ประเทศเยอรมันต้องการให้ไลพ์ซิกเป็นศูนย์กลางของเยอรมนี (CENTER OF GERMANY) ชม โบสถ์เซนต์โทมัส (St. Thomas Church) เป็นจุดกำเนิดของคณะประสานเสียงชื่อดังระดับโลก อย่างคณะ St. Thomas Boys’ Choir ซึ่งมีอายุเก่าแก่ตั้งแต่ปี ค.ศ  1212 ซึ่งเป็นปีเดียวกับที่โบสถ์แห่งนี้ถูกสร้างขึ้น อีกทั้งนักประพันธืเพลงชื่อดังหลายท่านเคยเล่นบรรเลงเพลงที่โบสถ์แห่งนี้ได้แก่  Augustinian Johann Sebastian Bach, Wolfgang Amadeus Mozart, Richard Wagner และ Felix Mendelssohn Bartholdy ชม โบสถ์เซนต์นิโคลัส (St. Nicholas Church) โบสถ์เก่าแก่ ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 12 และที่โบสถ์แห่งนี้เป็นจุดเริ่มต้นของการเดินขบวน Monday Demonstration หรือ การเดินขบวนวันจันทร์ในเยอรมนีตะวันออก ซึ่งเป็นการเดินประท้วงทางการเมืองอย่างสงบเพื่อประท้วงรัฐบาลเยอรมนีตะวันออก เหตุการณ์นี่เองเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้กำแพงเบอร์ลินต้องล่มสลาย ชม จัตุรัสเมืองเก่า อาคารสถาปัตยกรรมเรเนอซองส์ ถูกใช้เป็นที่ว่าการเมืองเก่า มีความเก่าแก่ ยังคงความงดงาม ปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์เมือง

ใกล้กันเป็น Naschmarkt หรือ ที่เรียกว่า Snack Square มีแผงขายขนมน่ารัก ๆ วางขายขนมเยอรมัน แผงขายผัก และ ผลไม้ เป็นจัตุรัสที่มีชีวิตชีวามาก อิสระทุกท่านตามอัธยาศัย ณ Mädler-Passage ศูนย์การค้าแหล่งช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนม และ ร้านอาหารมากมาย เพลิดเพลินกับสถาปัตยกรรม นีโอเรเนสซองส์ นีโอคลาสสิค และ อาร์ตนูโว สุดอลังการ

เที่ยง    อิสระอาหารกลางวัน ตามอัธยาศัย

นำท่านเดินทางสู่ เมืองแบมเบิร์ก (Bamberg) (ระยะทาง 249 กม./ 3 ชม.) เป็นหนึ่งในเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งในแคว้นบาวาเรีย ศูนย์รวมสถานที่สำคัญทางศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม ที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี สิ่งปลูกสร้างที่สำคัญในเมือง รวมถึงอาคารบ้านเรือนต่าง ๆ ยังคงความดั้งเดิม เนื่องจากเป็นอีกหนึ่งเมืองที่ไม่ได้รับผลกระทบในช่วงสงครามดลกครั้งที่ 2 เขตเมืองเก่าของแบมเบิร์ก ได้รับารขึ้นทะเบียนเป็นมกรดโลกทางวัฒนธรรมโดยองค์การยูเนสโก้ ในปี 1993     

ชม ศาลาว่าการเมืองหลังเก่า (Altes Rathaus) ตั้งอยู่บนเกาะซึ่งสร้างขึ้นมากลางแม่น้ำเร็กนิทซ์ใจกลางเมืองเก่า และมีสะพานเชื่อมสองฝั่งซึ่งเป็นฝั่งเมืองและสถานที่สำคัญทางศาสนาเข้าด้วยกัน Bamberg Cathedral มหาวิหารแบมเบิร์ก ตั้งอยู่ริมฝั่งทิศใต้แม่น้ำเร็กนิทซ์ เป็นวิหารในแบบโรมาเนส-โกธิค โบสถ์ที่เห็นในปัจจุบันสร้างขึ้นแทนที่โบสถ์หลังเก่าที่ถูกไฟไหม้ในคริสต์ศตวรรษที่ 12 โดยใช้เวลาสร้างนานถึง 20 ปี บริเวณด้านหลังของจัตุรัสโบสถ์แบมเบิร์กยังเป็นที่ตั้งของ วังเก่า หรือ Old Court เป็นกลุ่มอาคารไม้หลายหลัง เคยใช้เป็นที่ประทับของพระสังฆราชก่อนที่จะมีการสร้างวังใหม่ขึ้นมา ปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ของเมือง และเป็นสถานที่ประกอบพิธีแต่งงานสำหรับประชาชน ตรงข้ามกับจัตุรัสเป็นที่ตั้งของ พระราชวังใหม่ Neue Residenz เป็นพระราชวังหลังใหญ่มีห้องต่าง ๆ ถึง 40 ห้อง

เย็น   รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร

ที่พัก  Hotel National ระดับ 3 ดาว หรือเทียบเท่า

เช้า   รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก

นำท่านเดินทางสู่ Ingolstadt Village Outlet (ระยะทาง 150 กม./ 2 ชม.) แหล่งรวมสินค้าแบรนด์ชื่อดัง ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า กระเป๋า อุปกรณ์กีฬา อาทิเช่น Guess, Coach, Gucci, Calvin Klein,  Tommy Hilfiger, Hugo Boss, Puma, Nike, UGG, Levi’s ,Timberland , The North Face , Samsonite, Michael Kors, Versace, Prada, Burberry เป็นต้น

เที่ยง    อิสระอาหารกลางวันตามอัธยาศัย

ได้เวลาอันสมควรนำท่านเดินทางสนามบินมิวนิก

16.50 น.   ออกเดินทางสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติฮามัด โดฮา ประเทศกาต้าร์ โดยสายการบินกาต้าร์ เที่ยวบินที่ QR058 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง) (ใช้เวลาบินประมาณ 5 ชั่วโมง 35 นาที) (เวลาประเทศกาต้าร์ ช้ากว่าประเทศไทย 4 ชั่วโมง)

23.25 น.    เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติฮามัด โดฮา ประเทศกาต้าร์  (เวลาท้องถิ่น) นำท่านแวะพักเปลี่ยนเครื่องเพื่อเดินทางสู่ประเทศไทย (รอแวะเปลี่ยนเครื่องประมาณ 2 ชั่วโมง 50 นาที)