18.25 นัดหมายพร้อมกันที่ สนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทย โปรดสังเกตุป้าย เลทส์โกกรุ๊ป พบเจ้าหน้าที่คอยให้การต้อนรับพร้อมอำนวยความสะดวกเช็คอินให้แก่ท่าน

21.25 ออกเดินทางสู่ สนามบินอาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยสายการบิน ETIHAD AIRWAYS เที่ยวบินที่ EY 409 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง)

00.40 เดินทางถึง สนามบินอาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และรอต่อเครื่อง

02.45 นำท่านออกเดินทางสู่ สนามบินมิวนิค ประเทศเยอรมัน โดยสายการบิน ETIHAD AIRWAYS เที่ยวบินที่ EY5 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง)

07.00 เดินทางถึง สนามบินมิวนิค ประเทศเยอรมัน หลังจากนั้นนำท่านผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองรับสัมภาระพร้อมออกเดินทางตาม (เวลท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 6 ชั่วโมง)

นำท่านเดินทางสู่ เมืองมิวนิค (Munich) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 50 นาที) เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของรัฐไบเอิร์น ประเทศเยอรมัน เป็นเมืองที่ใหญ่ เป็นอันดับ 3 ในเยอรมันรองจากเบอร์ลินและฮัมบวร์ค มิวนิคตั้งอยู่บนฝั่งแม่น้ำอีซาร์ ซึ่งเป็นแม่น้ำสาขาของแม่น้ำดานูบ

นำท่านชม ศาลากลางเมืองมิวนิค (Neues Rathaus) ที่ตั้งอยู่ด้านเหนือของ จัตุรัสมาเรียน พลัทซ์ (Marienplatz) จัตุรัสมาเรียน พลัทซ์ หรือ จัตุรัสพระแม่มารี คือจัตุรัสกลางเมืองของนครมิวนิค ถือเป็นจัตุรัสหลักประจำเมืองมาตั้งแต่ ค.ศ. 1158 และยังเป็นที่ตั้งของเสาอนุสรณ์ พระแม่มารี ซึ่งตั้งตระหง่านที่จัตุรัสแห่งนี้มาตั้งแต่ ค.ศ. 1638 ในปัจจุบัน ด้านเหนือของจัตุรัสนี้เป็นที่ตั้งของศาลาว่าการเมืองแห่งเก่า และด้านตะวันออกเป็นที่ตั้งของศาลาการเมืองแห่งใหม่ จัตุรัสนี้ถือว่าเป็นแลนด์มาร์คของมิวนิคเลยก็ว่าได้ ซึ่งมีร้านอาหาร ร้านสินค้า แบรนด์เนมต่างๆ ให้ท่านเดินเลือกชมได้อย่างมากมาย มีสถาปัตยกรรมต่างๆที่ออกแบบและตกแต่งสไตล์โกธิค อิสระให้ท่านเดินชมเมืองและช้อปปิ้งตามอัธยาศัย

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองฟุสเซ่น (Fussen) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.30 ชั่วโมง) ฟุสเซ่นเป็นเมืองในบาวาเรีย อยู่ห่างจากชายแดนออสเตรียประมาณ 5 กิโลเมตร เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงในด้านการผลิตเครื่องดนตรีไวโอลีน นอกจากนี้เมืองนี้ก็ยังมีความน่ารักในตัวเองเพราะเป็นเมืองเล็กๆ ขนาดไม่ใหญ่มากนัก ตั้งอยู่ท่ามกลางป่าเขาและธรรมชาติ

เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารร้านอาหาร (1)

นำท่านเข้าชม ปราสาทนอยชวานซไตน์ (Neuschwanstein Castle) เป็นปราสาทตั้งอยู่ในเทือกเขาแอลป์แถบบาวาเรีย ประเทศเยอรมัน สร้างในสมัยพระเจ้าลูทวิชที่ 2 แห่งบาวาเรีย ในช่วง ค.ศ. 1845 – 1886 ออกแบบโดย Christian Jank ตามจินตนาการของพระเจ้าลุดวิทที่ 2 แห่งบาวาเรีย มีพระประสงค์ให้จัดสร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ประทับอย่างสันโดษ ห่างจากผู้คนและเพื่ออุทิศให้แก่ มหากวีชื่อ ริชาร์ท วากเนอร์ ผู้ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างให้เป็นไปตามบทประพันธ์เรื่อง โลอินกรีน มีเนื้อหาเกี่ยวกับอัศวินขี่หงส์ขาว ดังนั้น ปราสาทแห่งนี้จึงได้รับการตกแต่งตามเรื่องราวในบทประพันธ์ดังกล่าว ปราสาทนี้เป็นปราสาทยุโรปที่งดงามมากที่สุดในโลก และเป็นต้นแบบของการสร้างปราสาทเทพนิยายเจ้าหญิงนิทรา สวนสนุกดิสนีย์แลนด์และโตเกียวดิสนีย์แลนด์ รวมไปถึงแดนเนรมิต *โปรแกรมทัวร์ได้รวมค่าเข้าชมปราสาทนอยชวานซไตน์แล้ว ในกรณีที่ไม่สามารถเข้าชมภายในปราสาทได้ซึ่งจะทราบ ณ วันเดินทาง ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการคืนค่าตั๋วเข้าชม ท่านละ 17 ยูโร (เนื่องจากเป็นการจองและชำระล่วงหน้าก่อนการเดินทาง) ทั้งนี้ยังสามารถเที่ยวชมบริเวณโดยรอบของปราสาทได้ หรือ บริเวณจุดชมวิวปราสาท ตามความเหมาะสม ณ วันเดินทาง โดยทางบริษัทคำนึ่งถึงความปลอดภัย และประโยชน์สูงสุดของลูกค้าเป็นสำคัญ* 

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองฟุสเซ่น (Fussen) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที) เพื่อรับประทานอาหารค่ำ และพักผ่อนที่เมืองฟุสเซ่น

ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารร้านอาหาร (2)

ที่พัก Hotel Alpengluhn, Fussen ระดับ 3 ดาว หรือเทียบเท่า

เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (3)

นำท่านเดินทางสู่ เมืองฮัลล์สตัทท์ (Hallstatt) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4.30 ชั่วโมง) หมู่บ้านมรดกโลกอันแสนโรแมนติก ที่มีอายุกว่า 4,500 ปี เมืองที่ตั้งอยู่ริมทะเลสาบ โอบล้อมด้วยขุนเขาและป่าสีเขียวขจีสวยงามราวกับภาพวาด กล่าวกันว่าเป็นเมืองที่โรแมนติกที่สุดใน Salzkammergut เขตที่อยู่บนอัพเพอร์ออสเตรีย และมีทะเลสาบสวยถึง 76 แห่ง ออสเตรียได้ให้ฉายาเมืองนี้ว่า “ไข่มุกแห่งออสเตรีย” และ ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกโดยองค์กรยูเนสโก เมื่อปี 1997 อิสระให้ท่านเดินชมเมืองตามอัธยาศัย นำท่านถ่ายภาพกับ โบสถ์แพริช (Parish Church) โบสถ์สวยริมทะเลสาบมีอายุกว่า 500 ปี ตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 12 ก่อสร้างขึ้นท่ามกลางซากปรักหักพังของป้อมโรมัน ถ่ายภาพกับ โบสถ์เมืองฮัลล์สตัทท์ (Hallstatt Lutheran Church) ที่มียอดแหลมสูงเด่นเป็นสง่าจากทุกมุมมองของเมือง เป็นโบสถ์นิกายโปรเตสแตนต์ สร้างขึ้นเมื่อประมาณปี ค.ศ. 1785 เพื่อใช้เป็นสถานที่ฟังเทศนา พระราชกฤษฎีกาโดยจักรพรรดิโยเซฟที่ 1 ผ่านชม จัตุรัสกลางเมือง (Central Square)

เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารร้านอาหาร (4)

นำท่านเดินทางสู่ เมืองซาลส์บูร์ก (Salzburg) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง) เป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับ 4 ในประเทศออสเตรียเมืองเก่าของซาลส์บูร์กเป็นสถาปัตยกรรมแบบบาโรก เป็นหนึ่งในใจกลางเมืองที่ถูกดูแลรักษาอย่างดีที่สุดในกลุ่มประเทศที่พูดภาษาเยอรมันด้วยกัน ได้รับขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก เมื่อปี 1996

นำท่านเข้าชม สวนมิราเบล (Mirabell Palace & Gardens) ซาลส์บูร์กมีอาคารและสวนเก่าแก่ไม่มากนัก แต่มีพระราชวังมิราเบลล์อันโดดเด่นและเป็นหนึ่งในอาคารที่ดีที่สุดในออสเตรีย พระราชวังแห่งนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นอนุสาวรีย์มรดกทางวัฒนธรรม สร้างขึ้นในปี 1606 นอกจากพระราชวังแล้ว ยังมีสวนที่สวยงามจนน่าอัศจรรย์ สวนนี้ให้ทัศนียภาพอันงดงามของวิหาร นำท่านถ่ายรูปด้านนอกกับ บ้านเกิดโมสาร์ท (House of Walfgang Amadeus Mozart) กวีเอกของโลกชาวออสเตรียปัจจุบันนี้เป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงประวัติของโมสาร์ทและครอบครัวนำ ท่านเดินทางสู่ ถนน Getreidegasse (หรืออีกชื่อหนึ่งคือ Grain Lane) ยังมีแหล่งช็อปปิ้ง ที่รวมร้านค้าแบรนด์เนมให้เลือกมากมาย ทั้งเครื่องประดับ, เครื่องแต่งกายพื้นบ้าน, เครื่องประดับอินเทรนด์, ของโบราณ รวมถึงร้านอาหารนั่งดื่มชิล ๆ

ค่ำ อิสระอาหารค่ำ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาในการท่องเที่ยวและช้อปปิ้งของท่าน

ที่พัก Hotel Astoria, Salzburg ระดับ 3 ดาว หรือเทียบเท่า

เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (5)

นำท่านเดินทางสู่ เมืองเคอนิชส์เซ (Konigssee) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง) เป็นทะเลสสาบในเทือกเขาแอลป์ ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติ Berchtesgaden ล้อมรอบไปด้วยภูเขาสูงชันบนความสูงราว 600 ม. เหนือระดับน้ำทะเล ทางตะวันออกเฉียงใต้ของแคว้นบาวาเรีย เยอรมนี ใกล้ชายแดนประเทศออสเตรีย พาท่านเดินทางสู่ ทะเลสาบเคอนิชส์เซ (Konigssee Lake) เพื่อล่องเรือชมความงามของทะเลสาบ เกิดจากการละลายของธารน้ำแข็งในยุคน้ำแข็ง มีความยาว 7.7 กม. และกว้าง 1.7 กม. ลึกเป็นอันดับ 3 ของเยอรมัน (100 - 190 ม.) ความโดดเด่นของทะเลสาบแห่งนี้ คือ ทัศนียภาพที่งดงาม และความใสสะอาดของน้ำในทะเลสาบ ที่ว่ากันว่ามีความสะอาดทัดเทียมกับคุณภาพของน้ำดื่ม

นำท่านเดินทางสู่ ท่าเรือ St. Bartholomew เพื่อนำท่ารชม โบสถ์ St. Bartholomew ที่มีชื่อเสียงตั้งชื่อตามนักบุญ Bartholomew the Apostle เริ่มสร้างในศตวรรษที่ 11 มีลักษณะเด่นไม่เหมือนที่ไหน คือ โดมรูปหัวหอม ตัวเรือนสีขาว หลังคาแดงสด สามารถเดินชมรอบ ๆ โบสถ์ และชมทัศนียภาพ ที่งดงามของทะเลสาบที่เกิดจากการละลายของ Glacier สมัยยุคน้ำแข็งโดยมีทุ่งหญ้าสีเขียว และภูเขาสูงชันเป็นฉากหลัง บริเวณโบสถ์จะมีร้านอาหารเสิร์ฟปลาปลาเทราต์สดจากทะเลสาบ และเบียร์ Hofbrau ชื่อดังของแถบนี้ และจุดนี้มีเส้นทางเดินป่าไปชมป่าสน ธารน้ำตก และถ้ำน้ำแข็งบริเวณภูเขา Watzmann *โปรแกรมทัวร์ได้รวมค่าล่องเรือทะเลสาบเคอนิชส์เซแล้ว ในกรณีที่ไม่สามารถล่องเรือทะเลสาบเคอนิชส์เซได้ ณ วันเดินทาง ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการคืนค่าล่องเรือ (เนื่องจากเป็นการจองและชำระล่วงหน้าก่อนการเดินทาง)  โดยทางบริษัทคำนึ่งถึงความปลอดภัย และประโยชน์สูงสุดของลูกค้าเป็นสำคัญ* 

เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารร้านอาหาร (6)

นำท่านเดินทางสู่ เมืองโบลซาโน (Bolzano) ประเทศอิตาลี (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4.30 ชั่วโมง) เมืองโบลซาโนถือว่าเป็นประตูสู่โดโลไมท์ เป็นเมืองที่ซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่ภูเขาของเซาท์ทิโรล (South Tyrol) ในเทือกเขาแอลป์ของประเทศอิตาลี ได้รับการโหวตให้เป็นเมืองคุณภาพชีวิตดีที่สุดของอิตาลีในปี 2014 นำท่านสู่ จัตุรัส Walther จัตุรัสหลักในโบลซาโนและเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่สวยงามที่สุดของเมือง จัตุรัสนี้ตั้งอยู่ใจกลางเมือง มีอนุสรณ์สถานสำคัญและอาคารเก่าแก่หลายแห่ง ที่มุมด้านใต้ของจัตุรัส คือ Duomo di Bolzano อันสง่างาม และตรงกลางของจัตุรัสมีน้ำพุที่สวยงาม นอกจากสถาปัตยกรรมที่สวยงามและอาคารอันเก่าแก่แล้ว จัตุรัสยังมี ตลาดและแผงขายของเล็กๆ ร้านกาแฟ และร้านอาหารต่างๆ

ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารร้านอาหาร (7)

ที่พัก B&B Hotel, Bolzano ระดับ 3 ดาว หรือเทียบเท่า

เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (8)

นำท่านเดินทางสู่ เมืองออร์ติเซ (Ortisei) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง) นับว่าเป็นสุดยอดสถานที่ท่องเที่ยวสวยงามที่น่ามาเที่ยวชมแห่งหนึ่งในประเทศอิตาลี ด้วยบรรยากาศท่ามกลางธรรมชาติ ที่ตั้งอยู่ในหุบเขา Val Gardena ทางตอนเหนือของประเทศอิตาลี รวมถึงมนต์เสน่ห์ของสถาปัตยกรรมหมู่บ้านที่มีสีสันสวยงามเรียงรายกันราวกับหลุดเข้ามาในเมืองสีพาสเทล นำท่านชม โบสถ์ Saint Ulrich ตั้งอยู่บนเนินทางด้านทิศเหนือของเมือง สถาปัตยกรรมสวยงามในสไตล์เรอเนสซองซ์และประติมากรรมบาโรก ชื่นชมความงาม โบสถ์ Saint Anthony’s ภายในมีภาพวาดหน้าต่างกระจกสีและรูปปั้นแสดงฉากจากชีวิตของนักบุญแอนโธนี ด้านหลังโบสถ์ Saint Anthony’s เป็นลานจตุรัสขนาดย่อม มีร้านค้าร้านอาหาร และป้ายรถบัสอันเป็นป้ายหลักสำหรับการเดินทางระหว่างออร์ทิเซ่กับเมืองอื่นๆในแถบนี้

นำท่านเดินทางสู่ สถานีกระเช้า Alpe di Siusi อยู่ห่างจากตัวเมืองในระยะทางเดินเพียงไม่กี่นาทีเท่านั้น โดยมีสะพานคนเดินข้ามทอดยาวไปถึงกระเช้าเริ่มไต่ระดับขึ้น กระเช้าจากสถานีเชิงเขาจะพาเราขึ้นมาส่งที่จุดชมวิวซึ่งอยู่ที่ระดับความสูง 2,005 เมตรจากจุดชมวิวเราจะมองเห็นท้องทุ่งหญ้าที่เป็นเนินสูงๆต่ำๆไปจนถึงกลุ่มยอดเขาที่เห็นโดดเด่นอยู่เบื้องหน้า ขุนเขาโดโลไมท์ (Dolomite) ซึ่งประกอบด้วยภูเขาทั้งหมด 6 ยอดเรียงติดๆกันเป็นวงโค้งล้อมรอบภูเขาน้อยที่อยู่กึ่งกลางเอาไว้ ยอดเขาที่สูงที่สุดในกลุ่มนี้คือยอดซ้ายสุดที่ชื่อ Sassolungo ซึ่งมีความสูง 3,181 เมตรการ*การเดินทางขึ้นกระเช้า ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ และสภาพภูมิอากาศเป็นสำคัญ กรณีไม่สามารถขึ้นกระเช้าได้ ไม่ว่ากรณีใดก็ตาม ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ไม่สามารถคืนค่าใช้จ่าย ไม่ว่าส่วนใดส่วนหนึ่งให้กับท่านได้ทุกกรณี เนื่องจากเป็นการชำระล่วงหน้ากับผู้แทนเรียบร้อยแล้วทั้งหมด ทั้งนี้ทางบริษัทจะคำนึงถึงประโยชน์ของลูกค้า เป็นสำคัญ

เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารร้านอาหาร (9)

นำท่านเดินทางสู่ ทะเลสาบมิซูรินา (Lake Misurina) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง) เป็นทะเลสาบธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดของ Cadore และอยู่เหนือระดับน้ำทะเล 1,754 เมตร ทะเลสาบมีความยาว 2.6 กม. พาท่านสัมผัสวิวทิวทัศน์ของทะเลสาบมิซูรินาที่มีโดโลไมท์ขุนเขาสุดยิ่งใหญ่เป็นฉากหลังอันสวยงามอลังการ  

นำท่านสู่ เมืองกอร์ตีนาดัมเปซโซ (Cortina D’Ampezzo)  (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 15 นาที) เป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่และดูทันสมัยกว่า Ortisei ตั้งอยู่ห่างจากเมืองเวนิสไปทางเหนือประมาณ 160 กิโลเมตร เป็นเมืองศูนย์กลางการท่องเที่ยวทางด้านตะวันออกของโดโลไมท์เคยใช้เป็นสถานที่ในการจัดการเเข่งขันกีฬาโอลิมปิคฤดูหนาวในปี ค.ศ.1956 มีภาพยนตร์ที่ถ่ายทำในเมืองนี้ในอดีตหลายเรื่อง เช่น The Pink Panther(1963),เจมส์บอนด์007(For Your Eyes Only 1981) และ Cliffhanger (1993)

ค่ำ อิสระอาหารค่ำ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาในการท่องเที่ยวของท่าน

ที่พัก B&B Hotel Passo Tre Croci Cortina, Cortina D’Ampezzo ระดับ 3 ดาว หรือเทียบเท่า

เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (10)

นำท่านเดินทางสู่ เมืองเซอร์มิโอเน (Sirmione) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4.30 ชั่วโมง) ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศอิตาลี เมืองนี้ถูกล้อมรอบด้วยมหาสมุทรเป็นดั่งเมืองลอยน้ำที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ เพราะยังมีซากปรักหักพังของโบราณสถานหลายร้อยปีก่อนตั้งอยู่ที่นี่ โดยมีฉายาว่าเป็น “ไข่มุกแห่งคาบสมุทรเซอร์มิโอ” และยังเป็นดั่งดั่งเมืองเวนิสสอง เพราะบ้านเมืองในเซอร์มิโอเนยังอยู่ท่ามกลางแหล่งน้ำและด้วยลักษณะภูมิประเทศที่เป็นแหลมยื่นเข้าไปใน ทะเลสาบการ์ดา (Lake Garda) ที่มีความสวยงาม สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ที่สวยงามกว้างไกลและถูกล้อมรอบด้วยทะเลสาบทั้งสองด้าน ปัจจุบันได้รับความนิยมนี้อยู่บริเวณเหนือสุดของเกาะนี้มีซากปรักหักพังของ Grotto of Catullus อยู่ นักท่องเที่ยวสามารถถ่ายภาพทิวทัศน์ที่น่าตื่นตาของทะเลสาบโดยมีฉากหลังเป็นร่องรอยของคฤหาสน์แบบโรมันที่หลงเหลืออยู่ ในศตวรรษที่ 13 มีการสร้างป้อมปราการและกำแพงหินล้อมรอบเมืองอันสง่างามและยังคงอยู่ถึงปัจจุบัน ซึ่งบางส่วนนั้นจมอยู่ใต้น้ำ ทำให้เกิดเป็นภาพสวยงามประดุจเป็นเมืองลอยน้ำที่นักท่องเที่ยวประทับใจ มีมรดกทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ตั้งอยู่ที่นี่คือ “โรมัน วิลลา” เมืองโบราณที่มีอายุนับศตวรรษ ภายในเมืองมีตรอกซอกซอยแคบๆแบบสมัยก่อนมีกำแพงหินและมีทัศนียภาพอันโรแมนติก

เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารร้านอาหาร(11)

นำท่านเดินทางสู่ เมืองมิลาน (Milan) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง) ประเทศอิตาลี เป็นเมืองหลักของแคว้นลอมบาร์เดียและเป็นเมืองสำคัญในภาคเหนือของประเทศอิตาลี นำท่าน ถ่ายรูปเป็นที่ระลึก กับ มหาวิหารแห่งเมืองมิลาน (Duomo di Milano) เป็นมหาวิหารที่มีสถาปัตยกรรมแบบโกธิคที่ยิ่งใหญ่ด้วยความสูง 157 เมตร และกว้างถึง 92 เมตร **ไม่รวมค่าบัตรเข้าชม มหาวิหารแห่งเมืองมิลาน ท่านละ ประมาณ 5 ยูโร (EUR) หรือ คำนวณ เป็นเงินไทย ท่านละ ประมาณ 200 บาท**  ผ่านชม อนุสาวรีย์ ของกษัตริย์วิคเตอร์ เอ็มมานูเอลที่ 2 (Vittorio Emanuele II Monument) ผู้ริเริ่มการรวมชาติหัวเมืองต่างๆในอิตาลี และอนุสาวรีย์ของศิลปินชื่อดังในยุคเรเนซองส์อีก 1 ท่าน คือ อนุสาวรีย์ลิโอนาร์โด ดาร์วินซี่ (Leonado Davinci Monument) หันหน้าไปทางโรงละครที่อยู่ในบริเวณด้านหน้าของ ผ่านชม โรงละครปิอัซซ่า เดลลา สกาลา (Piazza della scala) หรือ โรงละครสกาล่าเก่าแก่ของเมือง ผ่านชม ประตูชัยแห่งเมืองมิลาน (Porta Sempione) ตั้งตระหง่านอยู่กลางสวนสาธารณะขนาดใหญ่ในเมืองมิลานแห่งนี้ นำท่านเดินทางสู่ แกลเลอรี่ วิคเตอร์ เอ็มมานูเอล (Galleria Vittorio Emanuele II) เป็นศูนย์การค้าที่สวยงาม หรูหราและเก่าแก่ที่สุดของเมืองมิลาน อิสระทุกท่านช้อปปิ้ง อาทิ Louis Vuitton, Gucci, Armani, Borsalino, Luisa Spagnoli, Bric’s, Tod’s, Swarovski, Stefanel, Massimo Dutti เป็นต้น อิสระทุกท่านช้อปปิ้ง

ค่ำ อิสระอาหารค่ำ เพื่อไม่เป็นการรบกวนเวลาช้อปปิ้ง

พักที่ Best Western Hotel Goldenmile, Milan ระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า

เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (12)

08.00 ได้เวลาอันสมควรนำท่านเดินทางเข้าสู่ สนามบินมิลาโน มัลเปนซา  ประเทศอิตาลี เพื่อเดินทางกลับประเทศไทย

10.50 นำท่านออกเดินทางสู่ สนามบินอาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยสายการบิน ETIHAD AIRWAYS เที่ยวบินที่ EY88 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง)

18.45 เดินทางถึง สนามบินอาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และรอต่อเครื่อง

22.15 นำท่านออกเดินทางสู่ สนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทย โดยสายการบิน ETIHAD AIRWAYS เที่ยวบินที่ EY408 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง)

07.45 เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทย โดยสวัสดิภาพ ... พร้อมความประทับใจ